Biological Diversity
ความหลากหลายทางชีวภาพมี 3 ประเภท ดังนี้
- ความหลากหลายทางพันธุกรรม
- ความหลากหลายทางชนิดพันธุ์
- ความหลากหลายทางระบบนิเวศ
แผนผังที่ 1
ประเภทของความหลากหลายทางชีวภาพ
ประเภทของสิ่งมีชีวิต
สิ่งมีชีวิตแบ่งออกเป็น 2
ประเภท ตามการมีเยื่อหุ้มนิวเคลียส ดังนี้
สิ่งมีชีวิตแบ่งออกเป็น 5
อาณาจักร
1. อาณาจักรมอเนอรา (Monera Kingdom) Eucaryotic Cells
3. อาณาจักรโพรทิสตา (Protista
Kingdom) Procaryotic Cells
การจัดหมวดหมู่ของสิ่งมีชีวิต
Kingdom Phylum Class
Order Family Genus
Species
Species คือ
กลุ่มสิ่งมีชีวิตชนิดเดียวกันสามารถผสมพันธุ์กันแล้วได้ลูกที่ไม่เป็นหมัน
ไวรัส
ไวรัส (Virus) ไม่มีลักษณะเป็นเซลล์
เนื่องจากไม่มีเยื่อหุ้มเซลล์และไซโทพลาซึม
แต่เป็นอนุภาคที่ประกอบด้วยโปรตีนซึ่งห่อหุ้มสารพันธุกรรมเอาไว้
ไวรัสมีขนาดเล็กมากซึ่งเราจะมองเห็นได้โดยใช้กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนเท่านั้นไวรัสสามารถเพิ่มจำนวนตัวเองได้เมื่อเข้าไปอยู่ในเซลล์หรือร่างกายของสิ่งมีชีวิตชนิดอื่น
ดังนั้นในสภาวะดังกล่าว จึงถือว่าไวรัสเป็นสิ่งมีชีวิต
ในทางตรงกันข้ามถ้าไวรัสไม่ได้อยู่ภายในเซลล์หรือร่างกายของสิ่งมีชีวิตชนิดอื่น
ไวรัสก็ไม่สามารถเพิ่มจำนวนตัวเองได้ ดังนั้นในสภาวะเช่นนี้จะถือว่า
ไวรัสไม่ใช่สิ่งมีชีวิต
Kingdom Animalia
Porifera
อาศัยในทะเลส่วนใหญ่บางชนิดพบในน้ำจืด
มีหลายเซลล์ ยึดติดอยู่กับที่(sessile) ไม่มีหัว ปาก ทางเดินอาหาร
มีระบบไหลเวียนน้ำในร่างกาย รอบๆ
ร่างกายมีรูพรุน (ostia) ซึ่งให้น้ำเข้าร่างกายสู่ส่วนกลางลำตัว
(spongocoel) ภายในเซลล์มี นหสีท ให้น้ำออก ร่างกายสมสารท แบบ
Asymmetry หรือ Radial เนื้อเยื่อมี2
ชั้น มีเซลล์พิเศษเรียกว่า Collar cell ไม่มีระบบประสาท สืบพันโดย Budding มีโครงร่างยึดร่างกายเรียกว่า
Spicule สิ่งมีชีวิตตัวอย่าง เช่น ฟองน้ำ
Coelenterata
อาศัยอยู่แบบเดี่ยวหรือกลุ่มที่เรียกว่า Colony รูปร่างมี 2
แบบ คือ ทรงกระบอก (Polyp) และ ร่มคว่ำ (Medusa) ร่างกายสมมาตรแบบ Radial
Symmetry มีเนื้อเยื่อ 2
ชั้น ระหว่างชั้นมีของเหลว เรียกว่า Mesogloea หนวดที่ยื่นออกมา(Tentacle)โดยเชื่อมติดกับช่องกลางลำตัว(Gastrovascular
cavity) ที่ปลาย Tentacle มีเข็มพิษ(Cnidoblast)
ซึ่งสร้างสารพิษ(Nematocyst) โครงร่างอาจมีหินปูนหรือไม่มี ไม่มีระบบหมุนเวียนโลหิต ระบบหายใจ ระบบขับถ่าย
แบบเฉพาะ มีระบบประสาทแบบร่างแห(Nerve
net) การสืบพันมีทั้งแบบอาศัยเพศและไม่อาศัยเพศ
หรือแบบสลับ(Metagenesis) สิ่งมีชีวิตตัวอย่าง เช่น ไฮดรา
แมงกะพรุน ดอกไม้ทะเล
Platyhelminthes
ลำตัวแบน
มีรูปแบบทางร่างกายคล้ายหัว
สมมาตรแบบ Bilateral มีปากแต่ไม่มีทวารหนัก
หลอดอาหารแตกแขนงทั่วร่างกาย
ไม่มีระบบหมุนเวียนเลือด
หายใจแพร่ผ่านทางผิวหนัง มีFlame cell เป็นรูข้างลำตัวไว้ขับถ่าย มีปมประสาท 1
คู่ หรือ เป็นรูปขั้นบันได
ช่องว่าในลำตัวเป็นช่องว่าเทียม ผสมพันธุ์ในตัวเองได้ ส่วนใหญ่เป็นปรสิต
แต่บางชนิดก็ดำรงชีวิตแบบอิสระ เช่น พานาเรีย
มีการย่อยอาหารทั้งภายในและภายนอกเซลล์
สิ่งมีชีวิตตัวอย่าง เช่น พานาเรีย
หนอนตัวแบน
Nematoda
ลำตัวกลมยาว เรียวหัวท้าย ไม่มีข้อปล้อง
ผิวหนังมี cuticle หนา สมมาตรร่างกายแบบ Bilateral ทางเดินอาหารสมบูรณ์
ระบบขับถ่ายเป็นเซลล์พิเศษทำหน้าที่เป็นเมือนต่อม ไม่มีระบบหมุนเวียนโลหิต หายใจผ่านผิวหนัง ระบบประสาทเป็นแบบวงแหวน รอบส่วนหลอดอาหาร มีการแยกเพศ
ปฏิสนธิภายใน ไข่มีเปลือกหุ้ม
ส่วนใหญ่เป็นปรสิต แต่บางชนิดก็ดำรงชีวิตแบบอิสระ เช่น หนอนในน้ำส้มสายชู
ไม่มีช่องว่างในร่างกายที่แท้จริงสิ่งมีชีวิตตัวอย่าง เช่น พยาธิตัวกลม หนอนในน้ำส้มสายชู
Anilida
ลำตัวเป็นปล้อง ภายในลำตัวมี Coelom ใหญ่
แบ่งเป็นตอนๆ มีเยื่อกั้น ที่อาศัยอาจอยู่ใต้ดิน ก้นทะเลหรือน้ำจืด บางพวกอยู่ที่ชื้นแฉะ หรือ
ว่ายน้ำอิสระ ร่างกายมีรยางค์ ผิวมีCuticle ปกคลุม ทางเดินอาหารสมบูรณ์ มีหลอดอาหารย่างแบ่งเป็นส่วนๆ
ทำหน้าที่ต่างกัน มี Nephridium เป็นอวัยวะขับถ่าย ระบบหมุนเวียนเลือดเป็นแบบเปิด มี Haemoglobin อยู่ในเลือด
มีปมประสาท 1 คู่ หัวใจเป็นแบบหัวใจเทียม หายใจโดยแลกเปลี่ยนทางผิวหนังหรือเหงือก เป็นกระเทย แต่ต้องผสมพันธุ์ข้ามตัว สิ่งมีชีวิตตัวอย่าง เช่น ไส้เดือนดิน
แม่เพรียง ปลิงน้ำจืด ทากดูดเลือด
Mollusca
มีเนื้อเยื่อ Mantle ปกคลุมลำตัวที่อ่อนนิ่ม ส่วนใหญ่มีหินปูนเป็นเปลือกแข็ง สมมาตรร่างกายแบบ Bilateral ระบบทางเดินอาหารสมบูรณ์ ในช่องปากมี
radula ช่วยบดอาหาร ระบบหมุนเวียนเลือดแบบเปิดยกเว้นปลาหมึก ระบบหายใจมี Gill และ
Mantle ทำหน้าที่หายใจ ระบบขับถ่ายมีไต 1-6
คู่
มีกล้ามเนื้อด้านล่างที่แข็งแรงไว้ใช้เคลื่อนที่หรือขุดหาอาหาร หอยทาก เป็นสัตว์ที่อาศัยอยู่บนบก
และหายใจด้วยปอด มีเนื้อเยื่อ 3
ชั้น สิ่งมีชีวิตตัวอย่าง เช่น ปลาหมึก
หอยฝาเดียว หรือฝาคู่ หอยทาก
Arthropoda
มีรยางค์เป็นข้อต่อ ลำตัวที่เห็นภายนอกเป็นข้อหรือปล้อง ร่างกายแบ่งเป็น ส่วน หัว อก และท้อง มีโครงสร้าง Chitin อยู่ภายนอก
จึงลอกคราบได้ ระบบทางเดินอาหารสมบูรณ์ มี
ปาก และขากรรไกร ระบบหมุนเวียนเลือดแบบปิด
มีช่องว่า Haemocoel ระบบหายใจมีทั้ง Gill
Trachea Book lung Book gill ระบบขับถ่ายมีหลายแบบ เช่น Green gland ในกุ้ง
หรือ Malpighian tubule ในแมลง
มีปมประสาทที่ส่วนหัว
ผสมพันธุ์แบบแยกเพศ
ปฏิสนธิภายใน ออกลูกเป็นไข่ มี Metamorphosis ทั้งแบบสมบูรณ์
4 ระยะ
และไม่สมบูรณ์ 3 ระยะ สิ่งมีชีวิตตัวอย่าง เช่น ปู กุ้ง กั้ง แมลง เห็บ เหา ตะขาบ กิ้งกือ
แมงดาทะเล
Echinodermata
อาศัยในทะเลทั้งหมด สมมาตรร่างกายแบบ Bilateral ในช่วงตัวอ่อน และ Radial ในช่วงตัวเต็มวัย ผนังลำตัวภายนอกขรุขระ มีโครงสร้างภายในเป็นแผ่นหินปูน มีระบบท่อน้ำช่วยในการหายใจและเคลื่อนที่ มีช่องว่างในลำตัว หายใจโดยผิวหนัง ระบบประสาทเป็นวงกลม
และแตกแขนงไปยังส่วนต่างๆของร่างกาย
แยกเพศเป็นส่วนใหญ่ ปฏิสนธิภายนอก
สิ่งมีชีวิตตัวอย่าง เช่น ดาวทะเล
Chodata
มี Notocord เป็นแกนกลางลำตัวตลอดชีวิต
หรือในระยะใดระยะหนึ่งของชีวิต
มีเส้นประสาทไขสันหลัง
มีอวัยวะแลกเปลี่ยนก๊าซที่คอหอยหรือที่ปอด สมมาตรร่างกายแบบ Bilateral มีเนื้อเยื่อ 3
ชั้นมีช่องว่าลำตัวขนาดใหญ่ มีทางเดินอาหารสมบูรณ์ มีกระดูกภายใน
สิ่งมีชีวิตตัวอย่าง เช่น เพรียงหัวหอม ปลาปากกลม สัตว์มีกระดูกสันหลัง ปลา
สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก สัตว์เลื้อยคลาน
นก และ สัตว์เลี้ยลูกด้วยนม
พันธุศาสตร์
พันธุกรรม
ความหมายของคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม
1. เซลล์สืบพันธุ์ (Gamete) หมายถึง
อสุจิ (Sperm) เซลล์ไข่ (Egg Cell) และรวมถึงโครงสร้างอื่นๆ
ที่ทำหน้าที่เช่นเดียวกันซึ่งจะพบในพืช
โฮโมไซกัสยีน แบ่งออกเป็น 2
ลักษณะ ดังนี้
4.2 Homozygous Recessive หมายถึง
คู่ของยีนด้อยที่เหมือนกันอยู่ด้วยกัน หรือเรียกว่าเป็นพันธุ์แท้ของลักษณะด้อย
5. เฮเทอโรไซกัสยีน (Heterozygous Gene) หมายถึง
คู่ของยีนที่ต่างกันอยู่ด้วยกันเพื่อควบคุมลักษณะของสิ่งมีชีวิต เช่น Tt, Rr, IAi IAIB เป็นต้น
เฮเทอโรไซกัสยีน เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า พันธุ์ทาง
การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมที่ถูกควบคุมโดยยีนด้อยบนออโตโซม
(Autosome)
ตัวอย่าง
ลักษณะทางพันธุกรรมที่ถูกควบคุมโดยยีนด้อยบนออโตโซม
ตัวอย่าง
ลักษณะทางพันธุกรรมที่ถูกควบคุมโดยยีนด้อยบนโครโมโซม X
1. โรคฮีโมฟิเลีย (Hemophilia)
พงศาวลี หรือพันธุประวัติ (Pedigree)
มิวเทชัน (Mutation)
พันธุวิศวกรรม (Genetic Enginerring)
พันธุวิศวกรรม เป็นเทคนิคการสร้าง DNA สายผสม
หรือรีคอมบิแนนท์ ดีเอ็นเอ (Recombinant DNA) เพื่อให้ได้สิ่งมีชีวิตที่มีลักษณะตามความต้องการ
ซึ่งเทคนิควิธีดังกล่าวจะต้องอาศัยเอนไซม์สำคัญ 2
ชนิด คือ เอนไซม์ตัดจำเพาะ (Restriction
Enzyme) และเอนไซม์ DNA ไลเกส
(DNA ligase enzyme)
จีเอ็มโอ (GMOs)
การโคลน (Cloning)
วิธีการโคลน คือ การนำนิวเคลียสของเซลล์ร่างกาย
(Somatic Cell) ใส่เข้าไปในเซลล์ไข่ที่ถูกดูดเอานิวเคลียสออกแล้ว
จากนั้นกระตุ้นด้วยไฟฟ้าเพื่อให้แต่ละส่วนหลอมรวมกันแล้วนำไปเพาะเลี้ยงให้พัฒนาเป็นเอ็มบริโอ
ลายพิมพ์ดีเอ็นเอ (DNA fingerprint)
ลายพิมพ์ดีเอ็นเอ คือ รูปแบบของแถบดีเอ็นเอ
ซึ่งแสดงความแตกต่างของขนาดโมเลกุลดีเอ็นเอในสิ่งมีชีวิตแต่ละตัวหรือแต่ละบุคคลได้
ดังนั้นลายพิมพ์ดีเอ็นเอจึงเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละบุคคล
ระบบนิเวศ
คำนิยามศัพท์เกี่ยวกับระบบนิเวศ
- แหล่งที่อยู่อาศัย (Habitat) คือ สถานที่ซึ่งสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ชั่วคราวหรือถาวร เพื่อใช้เป็นแหล่งอาหารหลบภัย ผสมพันธุ์ วางไข่ และเลี้ยงตัวอ่อน
- ชีวบริเวณ (Biosphere) คือ ผลรวมของทุกบริเวณบนโลกที่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่
องค์ประกอบของระบบนิเวศ
1. องค์ประกอบที่ไม่มีชีวิต หรือปัจจัยทางกายภาพ (Physical
Factors) เช่น แสงสว่าง อุณหภูมิ ความกดดันน้ำ ดิน ลม เป็นต้น
ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตในเชิงอาหาร
1. ผู้ผลิต (Producers) หมายถึง
สิ่งมีชีวิตที่สามารถสร้างอาหารเองได้จากกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง
2. ผู้บริโภค (Consumers) หมายถึง
สิ่งมีชีวิตที่กินผู้ผลิตหรือผู้บริโภคด้วยกันเป็นอาหาร แบ่งออกเป็น
3 กลุ่มใหญ่ๆ ได้แก่
2.1 ผู้บริโภคพืช (Herbivores)
2.2 ผู้บริโภค (เนื้อ) สัตว์ (Carnivores)
2.3 ผู้บริโภคทั้งพืชและสัตว์ (Omnivores)
3. ผู้ย่อยสลาย (Decomposers) หมายถึง
สิ่งมีชีวิตที่ทำหน้าที่หลั่งเอนไซม์ออกมาย่อยสลายซากสิ่งมีชีวิต
เพื่อให้ตนเองได้รับพลังงาน ซึ่งการทำหน้าที่ของผู้ย่อยสลายนั้นถือได้ว่าเป็นขั้นตอนสำคัญในวัฏจักรของสารบางชนิด
การถ่ายทอดพลังงานภายในระบบนิเวศ
รูปแบบของการถ่ายทอดพลังงาน
การเปลี่ยนแปลงแทนที่ของกลุ่มสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศ
(Ecological Succession)
การเปลี่ยนแปลงแทนที่ของกลุ่มสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศ
หมายถึง การแทนที่ของกลุ่มสิ่งมีชีวิตเป็นยุคๆ จากยุคแรกจนถึงยุคสังคมสิ่งมีชีวิตขั้นสุด (Climax
Community) เนื่องจากสิ่งแวดล้อมเปลี่ยนแปลงไป
ประเภทของการเปลี่ยนแปลงแทนที่
การเปลี่ยนแปลงแทนที่แบ่งตามลักษณะการเกิดออกเป็น
2 ประเภท ได้แก่
2. การเปลี่ยนแปลงแทนที่แบบทุติยภูมิ (Secondary
Succession) คือ การเปลี่ยนแปลงแทนที่ของกลุ่มสิ่งมีชีวิตในบริเวณที่เคยมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ก่อน
แต่ถูกทำลายด้วยปัจจัยบางอย่าง เช่น น้ำท่วมนานๆ ไฟไหม้ป่าเ ป็นต้น
มนุษย์กับสภาวะแวดล้อม และทรัพยากรธรรมชาติ
สภาวะแวดล้อมมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาซึ่งเป็นปกติ
แต่ถ้าหากมีการเปลี่ยนแปลงไปมากจนส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตในด้านใดด้านหนึ่งกระทั่งเป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิต
จะเรียกว่า มลภาวะ (Pollution) ในที่นี้จะ
แก๊สเรือนกระจกที่สำคัญ ได้แก่
แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) แก๊สมีเทน (CH4) ออกไซด์ของไนโตรเจน และไอน้ำ (H2O) แก๊สเหล่านี้มีความสามารถในการเก็บกักความร้อนได้ดี
การทำลายโอโซนในบรรยากาศ
Digestive System
- จุลินทรีย์ ย่อยอาหารดดยการปล่อย Enzyme ออกมาแล้วดูดกลืนโมเลกุลเข้าสู่
Cell
- Amoeba นำอาหารเข้าสู่เซลล์
ด้วยวิธีฟาโกไซโตซีส
- พารามีเซียม ใช้ Cilia ที่บริเวณ Oral groove พัดโบกอาหารเข้าสู่เซลล์
- ฟองน้ำมี
Choanocyte ที่ผนังด้านใน นำอาหารเข้าสู่เซลล์ด้วยวิธีฟาโกโซโตซีส
- ไฮดราใช้
Tentacle จับอาหารเข้าปาก
- พลานาเรีย มีปาก และคอหอย (Pharynx) ที่ยื่นออกมาไว้ดูดอาหารเข้าไป
- ไส้เดือนและสัตว์ขาปล้อง
มีทางเดินอาหาร และอวัยวะที่ช่วยย่อยอาหาร
เช่น ต่อมน้ำลาย ต่อม Enzyme
- สัตว์ที่มีกระดูกสันหลัง มีอวัยวะที่ซับซ้อน เช่น ฟัน
- อะโบมาซัมในวัวเป็นกระเพาะอาหารที่แท้จริง
- Trypsin
,Chymotrysin ,Carboxypeptidase เป็น
Enzyme ย่อย Protein
- Amailase
,Maltase ย่อย
Carbohydrate
- Bile salt ช่วยให้ ไขมัน
เป็น Emulsion แล้ว Lipase ย่อยได้ fatty acid และ
Glycerol
Cellular respiration
-
Glycolysis เกิดที่
Cytoplasm สลายกลูโคส 6 C
ได้ Pyruvic
acid มี 3 C ใช้ 2 ATP ได้ 4 ATP
และ 2 NADH
- Krebs cycle สลาย acetyl
coenzyme A จาก
Pyruvic acid ที่ทำปฏิกิริยา กับ coenzyme A ซึ่งมี 2 C
ให้ 1 ATP 3
NADH 1 FAD เกิดในชั้นเมทริกซ์
-
Electron transport chain
1 NADH ให้
3 ATP และ 1
FAD ให้ 2
ATP เกิดที่บริเวณใกล้กับผนังชั้นด้านใน
การหายใจแบบไม่ใช้ออกซิเจน
- ในยีสต์ทำการหมักแอลกอฮอล์
- ในเซลล์กล้สมเนื้อ ทำการหมัก
กรดแลกติก
ส่งผลให้เกิดโรคเหน็บชาถ้าสะสมในปริมาณมาก
การแลกเปลี่ยนก๊าซ
- ไฮดรา
พลานาเรีย อมีบา แลกเปลี่ยนแก๊สโดยตรงผ่านเยื่อหุ้มเซลล์
- ไส้เดือนดิน แลกเปลี่ยนแก๊สโดยตรงผ่านผิวหนังที่เปียกชื้น
- แมลง มี
ท่อลมฝอย ท่อลม ช่องหายใจ
ที่ข้างลำตัว
- แมงมุม มี book lung
- ปลาแลกเปลี่ยนก๊าซที่น้ำ ผ่านเหงือก
- นก มีหลอดลม
และ ปอด
- คนหายใจผ่านเข้าทางจมูก เข้า
หลอดลม ผ่าน ขั้วปอด เข้าสู่หลอดลมฝอย ซึ่งเชื่อมติดกับถุงลม ที่อยู่ในปอด
ถุงลมมีหลอดเลือดที่มาจากหัวใจแทรกตัวอยู่เพื่อแลกเปลี่ยนก๊าซ
- หายใจเข้า กระดูกซีกโครงยกสูงขึ้น และกระบังลมลดต่ำลง
- การหายใจระบบอัตโนวัติ มี พอนส์
และเมดัลลา ออพลองกาตา เป็นตัวควบคุม
- การหายใจภายใต้การควบคุม โดย
ซีรีบรัล คอร์เทกซ์ ไฮโพทาลามัส และ ซีรีเบลลัม
- โรคที่เกี่ยวข้องกับทางเดินหายใจเช่น โรคปอดบวม
โรคถุงลมโป่งพอง
การขับถ่าย
- ฟองน้ำ
ลำฮดรา ขับถ่ายของเสียผ่านเซลล์ได้โดยตรง
- พลานาเลีย มี Flame cell ทำหน้าที่กำจัดของเสีย
- ไส้เดือนดินมี Nephidium ปล้องละ 1
คู่
- แมลงมี Malpighium tubule
อยู่ระหว่างทางเดินอาหารส่วนกลางและส่วนท้อง
- สัตว์ที่กระดูกสันหลังจะมีไตช่วยในการขับถ่าย
- สัตว์น้ำส่วนใหญ่ขับถ่ายในรูป แอมโมเนีย
- สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก ฉลาม
ปลากระดูกแข็งบางนิด ขับถ่ายในรูป
ยูเรีย
- หอยทาก นก
แมลง และสัตว์เลื้อยคลานบางชนิด ขับในรูป
กรดยูริก
- การรักษาน้ำในร่างกาย เมื่อร่างกายขาดน้ำ ไฮโพทาลามัส กระตุ้นให้ต่อมใต้สมองส่วนหลัง หลั่ง ADH
กระตุ้นให้หน่วยไตและท่อดูดน้ำกลับ
-
Aldosterone หลั่งจากต่อมหมวกไต ควบคุมสมดุลโซเดียม โพแทสเซียม
และฟอสเฟต และรักษาสมดุลกรดเบสในร่างกาย โดยการขับไฮโดรเจนไอออน
-
Dehydration ภาวะร่างกายขาดน้ำ
-
Diuretics เป็นสารขับปัสสาวะ เช่นสารคาเฟอีน
-
Cystitis กระเพาะปัสสาวะอักเสบ เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ส่วนมากพบในเพศหญิง
-
Pyelonephritis ไตและกรวยไตเกิดการอักเสบ
- เหงื่อเป็นการขับถ่ายทางผิวหนัง และลดอุณหภูมิ
ควบคุมโดย ไฮโพทาลามัส
- ค่าความดันเลือดสูงสุดคณะบีบตัว เรียกว่า Systolic pressure
- ค่าความดันเลือดขณะหัวใจคลายตัว เรียกว่า
Diastolic pressure
-
Ischemic heart ภาวะหัวใจขาดเลืด มักมีสาเหตุมาจากโรคเบหวาน และความดันโลหิตสูง
-
Atherosclerosis หลอดเลือดตีบและตัน สาเหตุมาจากการสูบบุหรี่
- เลือดประกอบด้วย plasma
55%
และ blood corpuscle
45%
- Blood
corpuscle ประกอบด้วย erythrocyte leukocyte
และ platelet
-
Erythrocyte ในระยะ embryo
สร้างจากตับ
ม้าม และไขกระดูก ในทารกจนถึงผู้ใหญ่สร้างจากไขกระดูก มีอายุ 100-120 วัน
ถูกทำลายที่ตับและม้าม
-
Leukocyte สร้างและเจริญที่ไขกระดูก บางชนิดเจริญที่ต่อมไทมัส มี อายุ 2-3
วัน แบ่งเป็น 2 กลุ่ม
คือ granulocytes ได้แก่ eosinophil basophil
และ neutrophil ส่วน
agranulocytes ได้แก่ monocyte และ
lymphpcyte
- AIDS เกิดจากไวรัส HIV เข้าทำลาย Leukocyte
-
Leukemia โรคมะเร็งเซลล์เม็ดเลือดขาว
- หมุ๋เลือดระบบ ABO
แบ่งตามชนิด
antigen ใน plasma
และ antibody ที่ผิว erythrocyte
-
Erythoblastosis เกี่ยวข้องกับหมู่เลือด Rh
การเคลื่อนที่
- Amoebaเคลื่อนที่โดยอาศัยความแตกต่างระหว่างgelกับsol
เรียกว่า Amoeboid
movement หรือ Cytoplasmic flow
- พารามีเซียม อาศัย cilia ในการพัดโบก
- ยูกลีนา
อาศัย flagellum ในการเคลื่อนที่
- แมงกระพรุน
เคลื่อนที่โดยอาศัยการหดตัวของกล้ามเนื้อบริเวณขอบกระดิ่ง
ทำให้เกิดแรงดันเคลื่อนตัวไปทิศตรงข้ามกับที่พ่นน้ำ
- ปลาหมึกอาศัยการหดตัวของกล้ามเนื้อ พ่นน้ำออกมาทาง siphon
ที่สามารถเปลี่ยนทิศได้
- ปลาดาว อาศัยการหดตัวของ ampulla ให้ tube
feet ยืดหดเป็นคลื่น
- ไส้เดือนดิน อาศัย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น